นี่คือบทความที่สองของข้าพเจ้าที่นำมาเล่าให้ท่านฟัง ข้าพเจ้าเองเป็นคนที่เกียจระบบทุนนิยมมาก แต่พูดไปก็เหมือนขัดๆกันกับชีวิตที่ข้าพเจ้ากำลังดำเนินอยู่ เพราะต้องอาศัยและพึ่งพาระบบทุนนิยมแห่งนี้เพื่อเติบโต แต่ข้าพเจ้าสัญญากับตัวเองว่าสักวันจะเปลี่ยนแปลงมันเมื่อข้าพเจ้าได้เรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์มากพอ .............................(ตวลสแลงเกี่ยวอะไรกับที่เมิงพูดว่ะ 5555+) ใช่และมันเกี่ยวข้องกัน ตวลสแลงคือสัญลักษณ์ของความโหดร้ายของบุคคล บุคคลที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงสังคมเพื่อให้เป็นสังคมในอุดมคติของเขาเอง แต่มันคือโศกนาฎตกรรมครั้งใหญ่ครั้งหนึ่่งของมนุษย์ที่มิอาจลืมเลือนไปจากใจหลายๆคนโดยเฉพาะชาวกัมพูชา................เริ่มเลย
ตวลแสลงคือชื่อของโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า "กัมพูชา" หรือที่คนไทยส่วนใหญ่เรียกติดปากว่า "เขมร" ที่หลายๆคนคิดว่าเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนาในอดีต แต่ในปัจจุบันนั้นกัมพูชาหรือเขมรพูดได้ว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก เป็นประเทศเนื้อหอมประเทศหนึ่งในอาเซียนเลยก็ว่าได้ ที่นักลงทุนจากทั่วโลกต่างจ้องตาเป็นมันเพื่อจะเข้าไปทำธุรกิจกอบโกยผลประโยชน์
ข้าพเจ้าจะขอเล่าคร่าวๆก่อนเกี่ยวกับประเทศกัมพูชาในอดีต ก่อนจะเล่าถึงตวลแสลงเพราะทั้งหมดมันเกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้ง กัมพูชานั้นเพิ่งกลับมาพัฒนาฟื้นฟูประเทศหลังจากที่ต้องอยู่ในสภาวะสงครามกลางเมือง สงครามที่ฆ่าชีวิตประชาชนบริสุทธิ์ไปหลายล้านคน ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปี หลังจากนายพลลอล นอล ที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา ทำการยึดอำนาจการปกครองได้สำเร็จ นายพลลอล นอล ก็ได้เปลี่ยนประเทศให้เป็นสาธารณรัฐ ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย(ปลอม) เมื่อนายพลลอล นอล มีอำนาจแทนที่จะใช้โอกาสนี้พัฒนาเปลี่ยนแปลงประเทศของตนให้ดีขึ้นกับทำตรงกันข้าม นายพลลอล นอล สั่งปราบปรามกวาดล้างนักการเมือง ประชาชนฝ่ายตรงข้ามที่ต่อต้านทั้งหมด ทำให้นักศึกษาประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจการปกครองของนายพลลอล นอล ต้องหลบหนีเข้าไปอยู่ตามป่าเขาลำเนาไพร รวมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา (ข้าพเจ้าคิดว่าเหตุการณ์นี้คล้ายๆเหตุการณ์ในบ้านเราช่วง 14 ตุลา ที่ประชาชนและนักศึกษาที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลสมัยนั้น จะถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์และต้องหลบหนีเข้าป่า) กัมพูชาไม่นานนักด้วยการปกครองที่ไม่มีแบบแผน ทำให้รัฐบาลของนายพลลอล นอล ล้มเหลวในการปกครองประเทศเศรษฐกิจตกต่ำสุดๆ ประชาชนส่วนใหญ่จึงเริ่มไม่ให้การสนับสนุน ประกอบกับหลังจากยึดอำนาจได้สำเร็จ อเมริกาที่เคยหนุนหลังกลับปล่อยให้รัฐบาลของนายพลลอล นอลปกครองไปตามมีตามเกิด จึงทำรัฐบาลของนายพลลอล นอล เริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ และโดนกองกำลังเขมรแดงที่นำโดยนายพลพต บุกยึดอำนาจได้ในที่สุด ครับผม!!! นี่คือปฐมบทแห่งตวลแสลงกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การฆ่าล้างคนชาติเดียวกัน.......
ในช่วงแรก หลังจากการยึดอำนาจของนายพลพต เหมือนจะเป็นแสงสว่างสำหรับชาวกัมพูชาทุกคนต่างโห่ร้องแสดงความยินดี ออกมาต้อนรับกองกำลังเขมรแดง แต่เหตุการณ์กลับมิได้เป็นเช่นนั้น เมื่อนายพลพตวางนโยบายโดดเดี่ยวประเทศจากโลกภายนอก สร้างรัฐสังคมนิยม ปิดโรงเรียน โรงพยาบาล ปิดธนาคาร ยกเลิกระบบเงินตรา และกวาดต้อนประชาชนออกจากเมืองสู่ชนบท สร้างระบบนารวมขึ้นมา ทุกคนเท่าเทียมเสมอภาค (ฟังดูเหมือนจะดี) ในความเป็นจริงกับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขมรแดงบังคับให้ทุกคนต้องทำงานหนักวันละ 12 ชั่วโมง แลกกับอาหารเพียงมื้อเดียวต่อวัน มิหนำซ้ำใครที่ทำงานไม่ได้หรือดูไม่มีประโยชน์ เด็ก ผู้หญิงท้อง คนแก่ ก็จะถูกฆ่าทิ้งอย่างไร้ความเป็นมนุษย์ โดยทหารเขมรแดงจะบังคับให้เหยื่อขุดหลุมขนาดใหญ่ก่อนจะลงมือสังหารอย่างเหี้ยมโหด ณ.ทุ่งสังหาร (บทความหน้าจะมาขยายความเรื่องทุ่งสังหารครับ)
และอีกสถานที่ ที่เขมรแดงใช้เป็นที่ทรมารและสังหารชาวกัมพูชา คือตอลแสลงหรือคุก S-21 ที่ข้าพเจ้ากำลังจะกล่าวถึง ตวลแสลงแต่เดิมคือโรงเรียนในกัมพูชาแต่ถูกเขมรแดงเปลี่ยนเป็นที่กักกันนักโทษทางการเมืองรวมทั้งประชาชนที่ต่อต้าน เขมร